หน้าหลัก
บริการ
ข่าวและบทความ
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อ
ภาษา
เข้าสู่ระบบ

หน้าหลัก ข่าวสารองค์กร

“พงศ์กวิน” ผุดมาตรการเร่งด่วน สั่งการ กกจ. กพร. กสร. สปส. ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงชายแดนไทย – กัมพูชา

“พงศ์กวิน” ผุดมาตรการเร่งด่วน สั่งการ กกจ.-กพร.-กสร.-สปส. ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุรุนแรงชายแดนไทย – กัมพูชา . นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้ออกมาตรการดำเนินการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา โดยสั่งการให้ กรมการจัดหางาน (กกจ.) ,กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ,กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ดำเนินการช่วยเหลือทั้งในส่วนของลูกจ้างผู้ประกันตน นายจ้างสถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว และประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ . โดยกรมการจัดหางาน ให้สนับสนุนพื้นที่จัดตั้งโรงครัวประกอบอาหารพร้อมกับประสานเคลื่อนย้ายแรงงานไทย หากประสงค์จะเดินทางไปทำงานนอกพื้นที่ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับประเทศ ของแรงงานกัมพูชาและประสาน ช่วยเหลือให้มีที่พักพิงระหว่างรอการส่งกลับ รวมทั้งให้นายจ้างสถานประกอบการดูแลแรงงาน อย่างใกล้ชิด ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันในสถานประกอบการ และ ผ่อนผันให้แรงงาน ที่เข้ามาทำงานโดยใช้บัตรผ่านแดน (Border pass) ทั้งที่มีอายุหรือหมดอายุสามารถทำงานต่อไปได้ . อีกทั้งให้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดเตรียมสถานที่ของหน่วยงานในสังกัดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้แก่ผู้อพยพ และสนับสนุนพื้นที่จัดตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารเลี้ยงผู้ประสบภัย ส่วน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ดำเนินการด้านขอความร่วมมือนายจ้าง/สถานประกอบกิจการให้ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา หยุดงานโดยไม่ถือเป็นวันลาหรือความขัดต่อข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ดูแลลูกจ้าง และเฝ้าระวังการกระทบกระทั่งระหว่างลูกจ้างไทยและลูกจ้างกัมพูชา . นายพงศ์กวิน กล่าวต่อว่า พร้อมสั่งการให้ สำนักงานประกันสังคม แจ้งให้สถานพยาบาลในระบบประกันสังคมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้บริการแก่ผู้ประกันตนโดยไม่เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล และบันทึกการขอรับค่าบริการทางการแพทย์ผ่านระบบ MMS รวมทั้งเร่งรัดการวินิจฉัยการขอรับค่าบริการทางการแพทย์กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน 72 ชั่วโมงในระบบ MMS ในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้สถานพยาบาลโดยเร็ว . ทั้งนี้ ลูกจ้างผู้ประกันตน นายจ้างสถานประกอบการ แรงงานต่างด้าว และประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506

“พงศ์กวิน” นำประชุม คบต. เห็นชอบมาตรการดูแลแรงงานกัมพูชา ลดผลกระทบภาคธุรกิจ นายจ้างชายแดน

“พงศ์กวิน” นำประชุม คบต. เห็นชอบมาตรการดูแลแรงงานกัมพูชา ลดผลกระทบภาคธุรกิจ-นายจ้างชายแดน . นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้กระทรวงแรงงานและกระทรวงมหาดไทยพิจารณาดำเนินมาตรการผ่อนผันให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน วันนี้ (8 กรกฎาคม 2568) จึงได้จัดประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว (คบต.) เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการในการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าว . โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่ถือบัตรผ่านแดน (Border Pass) ทั้งที่มีอายุหรือหมดอายุ ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในประเทศไทยตามมาตรา 64 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และการอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนที่ได้รับอนุญาตสิ้นสุด ดังนี้ 1. ผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการทำงาน ได้อีก 6 เดือน หรือจนกว่าด่านจะเปิด รวมทั้ง ยกเว้นโทษเปรียบเทียบปรับ สำหรับกรณีอยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาที่กำหนด 2. ให้ยื่นคำขออนุญาตทำงาน พร้อมเอกสารหลักฐาน ตามแนวทางที่กรมการจัดหางานกำหนด โดยชำระค่ายื่นคำขอ 100 บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน 225 บาท ได้รับอนุญาตให้ทำงานครั้งละ 90 วัน กรณีการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด แต่ใบอนุญาตทำงานยังมีอายุ ให้ใบอนุญาตทำงานดังกล่าวใช้ได้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุใบอนุญาตทำงาน 3. สามารถเปลี่ยนและเพิ่มนายจ้างได้ไม่เกิน 3 ราย ภายในจังหวัดที่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน 4. คนต่างด้าวต้อง รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทุก 30 วัน โดยรายงานตัวครั้งแรกภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 และ 5. เมื่อสถานการณ์ชายแดนกลับสู่ภาวะปกติ ให้คนต่างด้าว อยู่ต่อได้อีก 7 วัน เพื่อเตรียมตัวเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ทั้งนี้ แนวทางทั้ง 5 ข้อดังกล่าวนั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.68 เป็นต้นไป . โดยการประชุมในครั้งนี้มีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข สภาความมั่นคงแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และหน่วยงานภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน . ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ภายหลังการประชุมครั้งนี้ กรมการจัดหางานจะเสนอผลการประชุมให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป โดยแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวจะได้รับการผ่อนผัน เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ และประกาศกระทรวงมหาดไทย รวมถึงประกาศกระทรวงแรงงานมีผลบังคับใช้แล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ขอให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่เข้าข่ายตามมาตรการผ่อนผัน ดำเนินการตามขั้นตอนให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดในพื้นที่ รวมถึงสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

ตกงานอย่าตกใจ! ประกันสังคมเพิ่มประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงาน (สำหรับกรณีเลิกจ้าง)

ตกงานอย่าตกใจ! ประกันสังคมเพิ่มประโยชน์ทดแทน กรณีว่างงาน (สำหรับกรณีเลิกจ้าง) . ตกงานอย่าตกใจ! ประกันสังคม เพิ่ม! ประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน (สำหรับกรณีเลิกจ้าง) - ใหม่ ร้อยละ 60 (เดิม ร้อยละ 50) ของค่าจ้างรายวัน โดยให้ได้รับครั้งละไม่เกิน 180 วัน ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุดไม่เกินเดือนละ 9,000 บาท จากเดิมสูงสุดเดือนละ 7,500 บาท โดยในระยะเวลา 180 วัน (6 เดือน) จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุด 54,000 บาท จากเดิมที่จะได้รับสูงสุด 45,000 บาท สร้างหลักประกันให้กับผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างและสูญเสียรายได้ ผู้ประกันตนมีรายได้เพียงพอกับภาระค่าใช้จ่าย อ่านต่อได้ที่ https://shorturl.asia/mpSb5

กองทุนประกันสังคม สิทธิล้น ประโยชน์เยอะ ผู้ประกันตนสมัครไว้จะมีสิทธิประโยชน์และความคุ้มครอง อะไรบ้าง ผู้ประกันตนควรรู้ ไปดูกันเลย

กองทุนประกันสังคม สิทธิล้น ประโยชน์เยอะ ผู้ประกันตนสมัครไว้จะมีสิทธิประโยชน์และความคุ้มครอง อะไรบ้าง ผู้ประกันตนควรรู้ ไปดูกันเลย กองทุนประกันสังคม คือ กองทุนที่ให้หลักประกันแก่ผู้ที่ประกันตน โดยได้รับเงินสมทบจาก นายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มครอง ทั้ง 7 กรณี (สามารถใช้ได้ทุกครั้ง ที่ผู้ประกันตนเจ็บป่วย) สิทธิประโยชน์+ความคุ้มครองที่จะได้รับ 7 กรณี -กรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย -กรณีคลอดบุตร -กรณีทุพพลภาพ -กรณีตาย -กรณีสงเคราะห์บุตร -กรณีชราภาพ -กรณีว่างงาน หากผู้ประกันตนสมทบเงินเข้ากองทุนประกันสังคมครบทุกเดือน รับรองว่าผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์+คุ้มครอง จากกองทุนประกันสังคมที่คอยดูแลผู้ประกันตนอยู่เสมอ “ประกันสังคม คุ้มครองทุกวัย ใส่ใจทุกคน” สอบถามข้อมูลประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง . สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับสุขภาพหรือข่าวสารต่างๆของโรงพยาบาลเออีซีได้ที่ เพจ Facebook โรงพยาบาลเออีซี

กรมการจัดหางานกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ไลฟ์สดขายของกลางห้างดัง ย้ำ! วีซ่าท่องเที่ยวไม่ใช่ใบอนุญาตทำงาน ฝ่าฝืนมีโทษ – ถูกส่งกลับประเทศ

กรมการจัดหางานกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ไลฟ์สดขายของกลางห้างดัง ย้ำ! วีซ่าท่องเที่ยวไม่ใช่ใบอนุญาตทำงาน ฝ่าฝืนมีโทษ – ถูกส่งกลับประเทศ . 12 มิถุนายน 2568 – กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เข้มตรวจสอบแรงงานต่างชาติทำงานผิดกฎหมาย สานต่อนโยบาย “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่เน้นคุ้มครองโอกาสแรงงานไทยและจัดระเบียบแรงงานต่างชาติอย่างจริงจัง ล่าสุดจับกุมแรงงานจีน 13 ราย ขณะไลฟ์สดขายสินค้าในห้างสรรพสินค้าย่านรัชดา ทั้งที่ถือเพียงวีซ่าท่องเที่ยว และไม่มีใบอนุญาตทำงาน . นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า การตรวจสอบครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งพบว่ามีการจ้างแรงงานต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตอย่างชัดเจน พร้อมตรวจยึดผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีฉลากภาษาไทยและไม่มีเครื่องหมาย อย. มาดำเนินการตามกฎหมาย . ผู้กระทำผิดประกอบด้วยนายจ้าง 1 ราย และแรงงานจีน 13 ราย (ชาย 7 คน หญิง 6 คน) ซึ่งถูกแจ้งข้อหาและนำตัวส่งดำเนินคดีแล้ว โดยแรงงานต่างชาติที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน และเดินทางเข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว หากทำงานในประเทศไทย ถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษปรับ 5,000–50,000 บาท และถูกส่งกลับประเทศทันที พร้อมถูกห้ามยื่นขอใบอนุญาตทำงานในไทยเป็นเวลา 2 ปี . “ด้านนายจ้าง หากจ้างแรงงานผิดกฎหมาย มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000–100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากทำผิดซ้ำ อาจถูกจำคุก และห้ามจ้างแรงงานต่างด้าว 3 ปี กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน จะไม่ละเลยต่อการลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของตลาดแรงงานไทย การเข้าทำงานของแรงงานต่างชาติในประเทศไทย ต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น วีซ่าท่องเที่ยวไม่ได้หมายความว่าอนุญาตให้ทำงาน” นายสมชาย กล่าวปิดท้าย . กรมการจัดหางานขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นการจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย หรือผู้ที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน โทร. 02 354 1729 หรือที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 และสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694

ประเทศไทย ไม่มีนโยบายผลักดันแรงงานกัมพูชากลับประเทศ

ประเทศไทย ไม่มีนโยบายผลักดันแรงงานกัมพูชากลับประเทศและยังคงยึดมั่นในการดำเนินการบนพื้นฐาน ของมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ประกาศจาก ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก) . วันนี้ (21 มิ.ย.68) พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ด้านความมั่นคง กล่าวว่า ฝ่ายไทยมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาแรงงานและเกษตรกรผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งการจัดหางาน และตลาดผักผลไม้ทดแทน โดยความร่วมมือของกระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ และเอกชน . ด้าน มาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลไทยเชื่อมั่นว่ากลไกทวิภาคี และการเจรจาระหว่างสองฝ่าย เป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุดในการแก้ไขปัญหา โดยฝ่ายไทยยังคงพร้อมหารือด้วยความจริงใจและสุจริตใจ บนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน . นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊กศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เผยแพร่ประกาศภาษาไทยและภาษาเขมร ชี้แจงว่า ประเทศไทยไม่มีนโยบายผลักดันแรงงานกัมพูชากลับประเทศ และยังคงยึดมั่นในการดำเนินการบนพื้นฐานของมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง . ทั้งนี้ ปัจจุบันมีแรงงานกัมพูชาในประเทศไทยที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเกือบ 5 แสนคน เป็นแรงงานเก็บผลไม้ตามฤดูกาลเดินทางไป-กลับ ประมาณ 2 หมื่นคน ส่วนแรงงานกัมพูชาผิดกฎหมายคาดว่ามีประมาณ 1-2 หมื่นคน . ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงแรงงานยืนยันจะไม่มีการผลักดันแรงงานกัมพูชากลับประเทศ การสมัครใจเดินทางกลับเป็นสิทธิของแรงงาน ส่วนแรงงานกัมพูชาที่ประสงค์จะทำงานแต่พาสปอร์ตหมดอายุไม่สามารถไปทำพาสปอร์ตใหม่ ไม่ต้องกังวล กรมการจัดหางานจะต่ออายุฝ่ายเดียวให้อยู่ได้อีก 1 ปี จึงขอให้ผู้ประกอบการสบายใจ รวมถึงแรงงานกัมพูชาตามลักษณะ MOU ที่เพิ่งมีการต่ออายุไปยังสามารถทำงานได้ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569 . แต่ต้องจับตา หลังคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 184 /2568 มอบหมายและมอบอำนาจให้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลกระทรวงแรงงาน เนื่องจากพิพัฒน์ รัชกิจประการ ลาออกจากตำแหน่ง . ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thai PBS, ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก)

รัฐเร่งเปิดทางแรงงานเพื่อนบ้านอยู่ต่ออย่างถูกกฎหมาย ผนึกรัฐ เอกชนรักษาแรงงานคุณภาพในระบบ

รัฐเร่งเปิดทางแรงงานเพื่อนบ้านอยู่ต่ออย่างถูกกฎหมาย ผนึกรัฐ - เอกชนรักษาแรงงานคุณภาพในระบบ . เมื่อพูดถึง แรงงานข้ามชาติ ในสายตาคนบางกลุ่มอาจมีมมุมองและมีทัศนคติที่ต่างออกไป บ้างมองถึงการแข่งขันกับ แรงงานไทย บ้างก็มองถึงการเป็นภาระต่อสังคมและระบบสวัสดิการ แต่หากมองให้ลึกและรอบด้านจะพบว่าแรงงานข้ามชาติโดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและเวียดนาม คือ "แรงงานคุณภาพ" ที่เข้ามาเติมเต็ม ตลาดแรงงานไทย ในหลายภาคส่วน ทั้งภาคการผลิต ธุรกิจบริการ ร้านค้าปลีก ไปจนถึงการดูแลผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในภาค SME ที่ต้องพึ่งพากำลังแรงงานเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง . แรงงานข้ามชาติกลุ่มนี้ ไม่เพียงแต่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจฐานราก แต่ยังเป็นฟันเฟืองที่ช่วยรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว หากขาดแรงงานกลุ่มนี้เพียงชั่วขณะหนึ่ง ธุรกิจจำนวนไม่น้อยอาจหยุดชะงัก โดยเฉพาะจากสถานการณ์ใบอนุญาตทำงานจำนวนมากที่หมดอายุในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หากไม่มีมาตรการรองรับทันเวลา ก็อาจนำไปสู่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและการจ้างงานผิดกฎหมายในวงกว้าง . ในฐานะหน่วยงานหลักด้านแรงงานของประเทศ กระทรวงแรงงาน โดย กรมการจัดหางาน มีภารกิจสำคัญในการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวให้เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพแรงงานในประเทศ และป้องกันปัญหาการจ้างงานผิดกฎหมายที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว ที่แรงงานข้ามชาติยังคงมีบทบาทเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ดังนั้น การขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุกผ่านมาตรการผ่อนผันในครั้งนี้ จึงสะท้อนเจตนารมณ์ของภาครัฐในการสร้างสมดุลระหว่างการดูแลแรงงานกับการรักษาความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจในภาพรวม . นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลมองเห็นความสำคัญของกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศ CLMV คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในหลากหลายมิติ โดยต้องไม่ปล่อยให้แรงงานเหล่านี้หลุดจากระบบโดยไม่จำเป็น ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ให้ผ่อนผันแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวและเวียดนาม ที่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุ ได้อยู่และทำงานต่อในราชอาณาจักรไปจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 นั้นไม่ใช่แค่เพื่อประโยชน์ของแรงงาน แต่เป็น "การรักษาเสถียรภาพแรงงานของทั้งระบบ" เพราะหากแรงงานเหล่านี้หลุดออกจากระบบ จะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทั้งในมิติของนายจ้าง เศรษฐกิจฐานราก ไปจนถึงความมั่นคงของธุรกิจขนาดเล็ก . "กรมการจัดหางาน ขอความร่วมมือให้นายจ้างและผู้ประกอบการเร่งดำเนินการขออนุญาตต่ออายุทำงานแรงงานกลุ่มลาวและเวียดนามภายใน 13 พฤษภาคม 2568 นี้ พร้อมเน้นย้ำว่าอย่ามองว่าการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวเป็นภาระ แต่คือโอกาสในการรักษาทั้งแรงงาน และเสถียรภาพของธุรกิจคุณให้ดำเนินการต่อไปได้แบบไม่สะดุด โดยหากนายจ้างและลูกจ้างยิ่งดำเนินการเร็ว แรงงานก็อยู่ในระบบเร็ว และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" นายสมชาย กล่าวทิ้งท้าย . สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัด ทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 - 10 สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือ สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

กรมการจัดหางานเดินหน้าตรวจเข้มแรงงานต่างชาติต่อเนื่อง ย้ำชัด! นายจ้างและแรงงานต่างชาติ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

กรมการจัดหางานเดินหน้าตรวจเข้มแรงงานต่างชาติต่อเนื่อง ย้ำชัด! นายจ้างและแรงงานต่างชาติ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด . นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานยังคงเดินหน้าบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบการทำงานของคนต่างชาติและสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุม ดูแล และป้องกันการจ้างงานที่ผิดกฎหมาย พร้อมย้ำให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวปฏิบัติตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัด . ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่จากกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน ร่วมกับสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 สำนักงานเขตทวีวัฒนา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร และกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบการทำงานของแรงงานต่างชาติภายในตลาดนัด ย่านทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบร้านค้า 16 แห่งในพื้นที่ดังกล่าว พบแรงงานต่างชาติกระทำความผิดรวม 5 ราย ได้แก่ แรงงานชายสัญชาติเมียนมา 2 ราย ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน หญิง 3 ราย ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน นอกจากนี้ ยังพบนายจ้างกระทำผิด 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลศาลาแดงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย . นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 ( 1 ตุลาคม 2567 – 13 พฤษภาคม 2568) มีการตรวจสอบนายจ้าง/สถานประกอบการแล้ว จำนวน 43,832 แห่ง ดำเนินคดี 1,442 แห่ง และตรวจสอบแรงงานต่างชาติ จำนวน 591,315 คน ดำเนินคดี 2,789 คน ในจำนวนนี้เป็นแรงงานข้ามชาติที่แย่งอาชีพคนไทย จำนวน 1,558 คน กรมการจัดหางานยืนยันว่าจะเดินหน้าตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นธรรม ในระบบการจ้างงานของไทย และคุ้มครองสิทธิของแรงงานทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมายได้ที่ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน อาคารกระทรวงแรงงาน ชั้น 4 โทร. 0 2354 1729 หรือที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกแห่ง สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1–10 หรือผ่านสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว

ย้ำอย่าตระหนก ผู้ป่วยโควิด 19 รายใหม่เริ่มลดลง

‘สมศักดิ์’ ย้ำอย่าตระหนก ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เริ่มลดลง . เรื่องแพทย์เตือนผู้ป่วยโควิด-19 กลับมาระบาดหนัก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 จนถึงปัจจุบัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมว่า ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ของไทยพุ่งแตะ 53,676 ราย เสียชีวิต 16 ราย โดยกรุงเทพฯ อยู่ที่ 16.7 ราย จำนวนผู้ป่วยเริ่มเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ 15 และสัปดาห์ที่ 18 ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน ถึง 3 พฤษภาคม 2568 พบผู้ป่วยสะสม 14,349 ราย เสียชีวิต 2 ราย เป็นจำนวนผู้ป่วยสูงสุด โดยกรุงเทพฯ พบผู้ป่วย 4,624 ราย ชลบุรี พบผู้ป่วย 1,177 ราย กรุงเทพฯ พบผู้ป่วย 866 ราย และระยอง พบผู้ป่วย 553 ราย อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในสัปดาห์ที่ 4-10 พ.ค. 2568 ลดลงเหลือ 12,543 ราย แนวโน้มการติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลง จากข้อมูลการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา พบว่าประเทศไทยสามารถตรวจพบผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคมีสาเหตุมาจากปัจจัยตามฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ซึ่งผู้ป่วยมักออกไปทำกิจกรรมหรือพบปะผู้คน หากป่วยหรือสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 ควรปฏิบัติดังนี้ 1. หากมีอาการน่าสงสัยหรือมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ มีเสมหะ ปวดศีรษะ หรืออ่อนเพลีย ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อที่ ATK ทันที 2. หากผลการตรวจเป็นบวก ให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง หลีกเลี่ยงกิจกรรมร่วมกับครอบครัวและผู้อื่น และแยกสิ่งของส่วนตัว หากจำเป็นต้องออกจากที่อยู่อาศัย ให้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด ล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง 3. หากมีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง เช่น มีไข้ ไอ มีเสมหะ แต่ไม่รุนแรงมาก และไม่สามารถตรวจด้วย ATK ได้ ไม่ควรออกนอกบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งหากจำเป็น 4. ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง หายใจถี่ หายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา 5. หลีกเลี่ยงหรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยง 608 หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขอขอบคุณข้อมูลจาก Bangkok Business

“พิพัฒน์” สั่งลุย! ตรวจแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ย้ำไม่ยอมให้แย่งงานคนไทย

“พิพัฒน์” สั่งลุย! ตรวจแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ย้ำไม่ยอมให้แย่งงานคนไทย . 25 เมษายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการป้องกันและปราบปรามแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ว่า กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญสูงสุดต่อการคุ้มครองโอกาสการมีงานทำของแรงงานไทย พร้อมเดินหน้าปราบปรามแรงงานข้ามชาติที่ทำงานโดยผิดกฎหมายอย่างจริงจัง . “ผมได้สั่งการให้อธิบดีกรมการจัดหางานส่งชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อไม่ให้แรงงานต่างชาติเข้ามาแย่งงานคนไทย และสร้างมาตรฐานการจ้างงานที่เป็นธรรม” นายพิพัฒน์ กล่าว . ล่าสุด กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบแรงงานต่างชาติ 2 จุดสำคัญในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ตลาดจตุจักร และย่านห้วยขวาง ซึ่งจุดที่ 1: ตลาดนัดจตุจักร ตรวจสอบแรงงานต่างชาติ 25 คน พบผู้กระทำผิด 3 ราย เป็นการทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต 2 ราย และทำงานนอกเหนือจากสิทธิ 1 ราย พร้อมดำเนินคดีกับนายจ้างที่กระทำผิดอีก 2 ราย . จุดที่ 2: ร้านอาหารย่านห้วยขวาง ตรวจสอบสถานประกอบการ 12 แห่ง พบแรงงานต่างชาติ 60 คน ทุกคน มีเอกสารถูกต้อง อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานจะดำเนินการขยายผลและสุ่มตรวจอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อป้องกันธุรกิจนอมินี และแรงงานผิดกฎหมายแฝงตัว . นายพิพัฒน์ ย้ำว่า รัฐบาลและกระทรวงแรงงานจะไม่ปล่อยให้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมายบ่อนทำลายโครงสร้างเศรษฐกิจ และขอความร่วมมือจากนายจ้างและสถานประกอบการ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานอย่างเคร่งครัด หากพบผู้ฝ่าฝืน จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด . ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า คนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตหรือทำงานผิดประเภท จะถูกปรับสูงสุดถึง 50,000 บาท และห้ามทำงานในไทยเป็นเวลา 2 ปี ขณะที่นายจ้างที่จ้างแรงงานผิดกฎหมายจะถูกปรับสูงสุดถึง 200,000 บาทต่อราย และห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นเวลา 3 ปี . โดยประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องทุกข์ได้ที่ กรมการจัดหางาน โทร. 1506 กด 2 หรือ สายด่วน 1694 และสำนักงานจัดหางานจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพฯ พื้นที่ 1–10 โดยขอย้ำว่า “แรงงานต่างชาติต้องอยู่ในระบบ คนไทยต้องไม่ถูกแย่งงาน” ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว

โรงพยาบาลเออีซีพร้อมเปิดให้บริการ กรกฎาคม 2568 นี้

โรงพยาบาลเออีซีพร้อมเปิดให้บริการ กรกฎาคม 2568 นี้ . AEC Hospital มีแนวคิดจัดตั้งโรงพยาบาลเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวโดยเน้นบริการกลุ่มตรวจร่างกาย ทุกประเภท ทั้งรูปแบบในโรงพยาบาล (Walk in ) และบริการนอกสถานที่ (Mobile check up)และรักษาพยาบาล ผู้ป่วยนอก (OPD) ผู้ป่วยใน(IPD) ในกลุ่มโรคง่ายๆไม่ซับช้อน (Simple disease) หรือกลุ่มผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินเช่น กลุ่มผู้ประสบภัยจากรถ(พรบ.) และ อุบัติเหตุจากการทำงาน (กองทุนเงินทดแทน) / เป็นต้น . *โดยใช้กลยุทธ์หลักเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีคุณภาพ เข้าถึงบริการได้ง่าย แต่ราคาเหมาะสม และพยายามลดภาระให้ผู้รับบริการ ชำระเงินเองหรือชำระส่วนเกินจากสิทธิ์ให้น้อยที่สุด* . โรงพยาบาลเออีซีพร้อมให้บริการทุกสิทธิ์การรักษา เรื่องสุขภาพให้โรงพยาบาลเออีซีดูแลคุณ . สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับสุขภาพหรือข่าวสารต่างๆของโรงพยาบาลเออีซีได้ที่ เพจ Facebook โรงพยาบาลเออีซี

กรมการจัดหางาน เร่งช่วยเหลือแรงงานทุกกลุ่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว

อธิบดี “สมชาย” เผย เดินหน้าเต็มที่ตามข้อสั่งการ “พิพัฒน์” รมว.แรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 กรมการจัดหางานขอแสดงความห่วงใยต่อแรงงานทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และพร้อมดำเนินมาตรการช่วยเหลือตามข้อสั่งการของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานทันที โดยเน้นดูแลแรงงานทุกมิติ ทั้งแรงงานไทยในประเทศ แรงงานไทยในต่างประเทศ และแรงงานต่างชาติ ในประเทศไทย มาตรการช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศ • ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0% สำหรับผู้กู้ยืมเงินจากกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน • ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ และจัดหางานให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง แรงงานไทยในประเทศเมียนมา (สมาชิกกองทุนฯ) • เดินทางกลับก่อนกำหนด (กรณีภัยพิบัติ): ช่วยเหลือรายละ 15,000 บาท • ทุพพลภาพ (มีใบรับรองแพทย์): ช่วยเหลือรายละ 30,000 บาท • เสียชีวิตในต่างประเทศ: ช่วยเหลือรายละ 40,000 บาท • ค่าจัดการศพในต่างประเทศ: ชดเชยตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท แรงงานต่างชาติในประเทศไทย - อำนวยความสะดวกในการออกหลักฐานทดแทนกรณีใบอนุญาตทำงานสูญหาย - ติดตามช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้ กรณีอยู่ในระบบประกันสังคม • กรณีบาดเจ็บ ค่ารักษาพยาบาล รพ.รัฐ ไม่เกิน 65,000 บาท รพ.เอกชน ไม่เกิน 1,000,000 บาท • กรณีตาย หรือสูญหาย ค่าทำศพ 50,000 บาท ค่าทดแทนรายเดือนร้อยละ 70 ของค่าจ้าง (สูงสุดไม่เกิน 14,000 บาท) ระยะเวลา 10 ปี • กรณีสูญเสียอวัยวะหรือสมรรถภาพในการทำงาน ได้รับร้อยละ 70 ของค่าจ้าง ระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี • กรณีทุพพลภาพได้รับร้อยละ 70 ของค่าจ้าง ไม่เกิน 14,000 บาทต่อเดือน ตลอดชีวิต • กรณีฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงาน ภายหลังการประสบอันตรายสำหรับลูกจ้างจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข กรณีซื้อประกันสุขภาพ (บริษัทประกันเอกชน) • ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (อุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย): สูงสุด 150,000 บาท • ค่ารักษาผู้ป่วยนอก: ไม่เกิน 15 ครั้งต่อปี / ครั้งละ 1,000 บาท • กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ: ชดเชย 100,000 บาท ทั้งนี้ แรงงาน นายจ้าง และสถานประกอบการ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด / สำนักงานจัดหางานกรุงเทพฯ พื้นที่ 1–10

เช็กมาตรการช่วยเหลือ นายจ้าง ลูกจ้าง ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

เช็กมาตรการช่วยเหลือ นายจ้าง-ลูกจ้าง ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว . เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานประกอบกิจการหลายแห่งและลูกจ้างได้รับผลกระทบ โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยและเร่งให้ความช่วยเหลือแรงงานทุกกลุ่มอย่างเร่งด่วน . พร้อมทั้งกำชับให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่งสำรวจสถานประกอบกิจการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้และให้ความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาผลกระทบและให้ทุกฝ่ายสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติและฟื้นฟูกิจการได้โดยเร็ว เรือเอก สาโรจน์ กล่าวต่อไปว่า กสร. ได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ . มาตรการช่วยเหลือแผ่นดินไหว จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เพื่อให้ความคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของทุกฝ่ายกฎหมาย ดังนี้ 1. สถานประกอบกิจการได้รับความเสียหายจนต้องปิดกิจการหรือมีความจำเป็นในการเลิกจ้างลูกจ้าง จะต้องจ่ายค่าจ้างถึงวันทำงานวันสุดท้าย หรือวันปิดกิจการและจ่ายค่าชดเชยการเลิกจ้างตามอายุงาน รวมถึงค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ากรณีไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า 2. กรณีที่ไม่ปิดกิจการแต่มีความจำเป็นต้องหยุดกิจการชั่วคราว ลูกจ้างจะได้รับค่าตอบแทนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของค่าจ้าง หากลูกจ้างไม่ได้รับสิทธิในกรณีดังกล่าว สามารถยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือยื่นคำฟ้องต่อศาลแรงงานได้ และหากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน ลูกจ้างยังสามารถยื่นขอรับเงินจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด 3. กสร. ยังได้จัดเตรียมมาตรการเพื่อช่วยเหลือนายจ้างหรือสถานประกอบกิจการ ดังนี้ 3.1 สถานประกอบกิจการที่ต้องการปรับปรุงความปลอดภัยในการทำงานภายหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เช่น บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้า เครื่องจักร และปั้นจั่น 3.2 บริการวงเงินกู้จากกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานได้ โดยไม่จำกัดวงเงินและอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 2 ต่อปี พร้อมระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี สอบถามโทร 0 2448 9128-9 ต่อ 801-808 . 4. มาตรการช่วยเหลือลูกจ้างในสถานประกอบกิจการที่มีสหกรณ์ออมทรัพย์ สามารถขอกู้เงินจากกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานได้ในวงเงิน 20 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี และมีระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 0 2660 2180 หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ หรือโทรสายด่วน 1506 กด 3 สายด่วน 1546 ขอบคุณข้อมูลจาก:กรุงเทพธุรกิจ

กรมการจัดหางาน เร่งช่วยเหลือแรงงานทุกกลุ่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว

กรมการจัดหางาน เร่งช่วยเหลือแรงงานทุกกลุ่ม หลังเหตุแผ่นดินไหว . อธิบดี “สมชาย” เผย เดินหน้าเต็มที่ตามข้อสั่งการ “พิพัฒน์” รมว.แรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 กรมการจัดหางานขอแสดงความห่วงใยต่อแรงงานทุกคนที่ได้รับผลกระทบ และพร้อมดำเนินมาตรการช่วยเหลือตามข้อสั่งการของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานทันที โดยเน้นดูแลแรงงานทุกมิติ ทั้งแรงงานไทยในประเทศ แรงงานไทยในต่างประเทศ และแรงงานต่างชาติ ในประเทศไทย มาตรการช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศ • ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0% สำหรับผู้กู้ยืมเงินจากกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน • ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ และจัดหางานให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง แรงงานไทยในประเทศเมียนมา (สมาชิกกองทุนฯ) • เดินทางกลับก่อนกำหนด (กรณีภัยพิบัติ): ช่วยเหลือรายละ 15,000 บาท • ทุพพลภาพ (มีใบรับรองแพทย์): ช่วยเหลือรายละ 30,000 บาท • เสียชีวิตในต่างประเทศ: ช่วยเหลือรายละ 40,000 บาท • ค่าจัดการศพในต่างประเทศ: ชดเชยตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท แรงงานต่างชาติในประเทศไทย - อำนวยความสะดวกในการออกหลักฐานทดแทนกรณีใบอนุญาตทำงานสูญหาย - ติดตามช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้ กรณีอยู่ในระบบประกันสังคม • กรณีบาดเจ็บ ค่ารักษาพยาบาล รพ.รัฐ ไม่เกิน 65,000 บาท รพ.เอกชน ไม่เกิน 1,000,000 บาท • กรณีตาย หรือสูญหาย ค่าทำศพ 50,000 บาท ค่าทดแทนรายเดือนร้อยละ 70 ของค่าจ้าง (สูงสุดไม่เกิน 14,000 บาท) ระยะเวลา 10 ปี • กรณีสูญเสียอวัยวะหรือสมรรถภาพในการทำงาน ได้รับร้อยละ 70 ของค่าจ้าง ระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี • กรณีทุพพลภาพได้รับร้อยละ 70 ของค่าจ้าง ไม่เกิน 14,000 บาทต่อเดือน ตลอดชีวิต • กรณีฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงาน ภายหลังการประสบอันตรายสำหรับลูกจ้างจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข กรณีซื้อประกันสุขภาพ (บริษัทประกันเอกชน) • ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (อุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย): สูงสุด 150,000 บาท • ค่ารักษาผู้ป่วยนอก: ไม่เกิน 15 ครั้งต่อปี / ครั้งละ 1,000 บาท • กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ: ชดเชย 100,000 บาท ทั้งนี้ แรงงาน นายจ้าง และสถานประกอบการ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด / สำนักงานจัดหางานกรุงเทพฯ พื้นที่ 1–10 . ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการจัดหางาน

“พิพัฒน์” ย้ำ! ไม่เก็บค่าธรรมเนียม แรงงานกัมพูชา ลาว เมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทาง สงกรานต์นี้ เดินทางสะดวก ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

“พิพัฒน์” ย้ำ! ไม่เก็บค่าธรรมเนียม แรงงานกัมพูชา-ลาว-เมียนมา เดินทางกลับประเทศต้นทาง สงกรานต์นี้ เดินทางสะดวก ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม . วันที่ 18 มีนาคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ประกาศมาตรการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศต้นทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยรัฐบาลไทยผ่อนผัน ไม่เก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่แรงงาน . นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า มติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 เห็นชอบให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่ทำงานถูกต้องตามกฎหมาย สามารถเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2568 เพื่อร่วมประเพณีสงกรานต์ ได้โดยไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักร (Re-Entry Permit) ถือเป็นมาตรการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในไทยให้ได้รับความสะดวกและสามารถเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวโดยไม่มีภาระเพิ่มเติมการผ่อนผันดังกล่าวเป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่ถูกต้องเพื่อให้แรงงานข้ามชาติที่ทำงานในไทยสามารถเดินทางกลับประเทศได้โดยสะดวก และสามารถกลับเข้ามาทำงานต่อหลังสิ้นสุดเทศกาลโดยไม่มีอุปสรรค . “แรงงานข้ามชาติเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทย รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการดูแลสิทธิแรงงาน และอำนวยความสะดวกให้สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมเป็นการช่วยเหลือแรงงานที่อยู่ในระบบให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่” นายพิพัฒน์ กล่าว . ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ระยะเวลาการผ่อนผันจะมีผลต่อเมื่อประกาศกระทรวงมหาดไทยมีผลบังคับใช้ หรือเป็นไปตามที่ประกาศกระทรวงมหาดไทยกำหนด แรงงานที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศ ขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมการจัดหางานอย่างใกล้ชิด ที่เว็บไซต์ กรมการจัดหางาน doe.go.th หรือสอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน1694

“พิพัฒน์” เล็งแก้ กม. นำแรงงานต่างด้าว เข้าระบบประกันสังคม ม.33

“พิพัฒน์” เล็งแก้ กม. นำแรงงานต่างด้าว เข้าระบบประกันสังคม ม.33 . นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น “การแก้ไขกฎหมายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่มีความเชื่อมโยงกับความมั่นคงและกิจการชายแดนของประเทศ” จัดโดย กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้นำเสนอข้อกฎหมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว ทั้งชาวเมียนมา กัมพูชา ลาว และ เวียดนาม ซึ่งขณะนี้เกินกำหนดเวลาในการต่อใบอนุญาต ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา . ในส่วนของประเทศกัมพูชาใช้ระบบการต่อใบอนุญาตโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกระทรวงแรงงานพยายามทำทุกอย่างให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพราะจะได้มีการตรวจสอบง่ายขึ้น ส่วนประเทศเมียนมาขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือน จากที่รัฐบาลเมียนมาเปลี่ยน รมว.แรงงาน จึงมีความไม่ชัดเจนของกระบวนการต่อใบอนุญาต หากในระยะเวลา 6 เดือนยังไม่จบก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขยายระยะเวลาต่อไป นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายอย่างที่กำลังหารือ โดยเฉพาะเรื่องประกันสังคมที่มีการทำประชาพิจารณ์เรื่องข้อยกเว้นอาชีพต่าง ๆ ของต่างด้าว เช่น หาบเร่ แม่บ้าน เกษตรกร ที่เป็นข้อยกเว้นของประกันสังคมเราจะนำเข้าสู่ระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 เพื่อให้มีความสะดวกในสิทธิรักษาพยาบาลและการอยู่ในประเทศไทย เมื่อเกษียณอายุและต้องเดินทางกลับ ก็จะได้รับเงินบำนาญตามระเบียบหรือกฎหมายของประกันสังคม ตอนนี้กระทรวงแรงงานได้นำเรื่องเข้าสู่ ครม.แล้วเหลือเพียงรอการบรรจุเท่านั้น . รมว.แรงงาน กล่าวว่า การที่แรงงานไทยมีไม่เพียงพอถือเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ อย่างผู้ที่ทำเกษตรกร หากเก็บผลผลิตไม่ทันเจ้าของสวนก็จะขาดทุน กระทรวงแรงงานเราทำทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรที่สามารถอำนวยความสะดวกและตอบสนอง ขอให้คณะ กมธ.ชุดนี้มาหารือกับกระทรวงแรงงาน อะไรที่ กมธ.ต้องการเร่งด่วน และต้องการนำเสนอเข้า ครม.เราจะต้องคุยและเดินหน้าพร้อมกัน เพื่อผลประโยชน์ประเทศของเรา ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ . ส่วนการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม อยู่ระหว่างเร่งนำเสนอครม. เพื่อปรับแก้การให้อำนาจ รมว.แรงงาน แต่งตั้งคณะกรรมการประกันสังคม หากเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ขั้นต่อไปก็สามารถแก้ไขในชั้น กมธ.ได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

โรงพยาบาลเออีซีร่วมกับโรงพยาบาลเอเซียอินเตอร์เนชั่นแนลให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่

โรงพยาบาลเออีซีร่วมกับโรงพยาบาลเอเซียอินเตอร์เนชั่นแนลให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่ . * ไม่ต้องสำรองจ่าย *ไม่เสียเวลาเดินทาง *ไม่ต้องหยุดงาน บริการถึงที่ (ถึงคิวมีเจ้าหน้าที่โทรตาม) . โรงพยาบาลเออีซีร่วมกับโรงพยาบาลเอเซียอินเตอร์เนชั่นแนลพร้อมให้บริการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ สิทธิ์ประกันสังคมทุกโรงพยาบาล (มาตรา 33 และ 39) #ไม่ต้องสำรองจ่าย (ภายในวงเงิน 900 บาท/ปี) . ให้บริการทางด้านทันตกรรมพื้นฐาน โดยทีมทันตแพทย์ผู้ชำนาญการ อาทิ 1.ขูดหินปูน 2.อุดฟัน 3.ถอนฟัน 4.ตรวจสุขภาพช่องปาก . สนใจตรวจสุขภาพติดต่อสอบถามหรือ นัดหมายจองคิวได้ที่ 061-350-6197

พิพัฒน์ ขอจับมือ โรม แก้กฎหมายดึงแรงงานต่างด้าว เข้าประกันสังคม

พิพัฒน์ ขอจับมือ โรม แก้กฎหมายดึงแรงงานต่างด้าว เข้าประกันสังคม . “พิพัฒน์” บรรยายแก้กฎหมายจัดการแรงงานต่างด้าว ลั่นขอจับมือ “โรม” บอกแม้อยู่คนละพรรค แต่ทำงานร่วมกันได้ ยินดีถ้ามีเรื่องเร่งด่วนจะนำเข้า ครม.ให้ เล็งแก้กฎหมายนำ “ต่างด้าว” เข้าสู่ระบบประกันตน ม.33 ย้ำแรงงานไทยไม่เพียงพอ ทำประเทศสูญเสีย ที่รัฐสภา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนารับฟังความคิดเห็น “การแก้ไขกฎหมายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ที่มีความเชื่อมโยงกับความมั่นคงและกิจการชายแดนของประเทศ” จัดโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน กมธ . นายพิพัฒน์ระบุว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้นำเสนอข้อกฎหมายหลายเรื่อง โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าว ทั้งชาวเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ซึ่งขณะนี้เลยระยะเวลาในการต่อใบอนุญาต ซึ่งสิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านม . นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า ในส่วนประเทศกัมพูชาจบแล้ว เพราะมีการต่อใบอนุญาตโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกระทรวงแรงงานพยามทำทุกอย่างให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพราะจะได้มีการตรวจสอบง่ายขึ้น ขณะที่ประเทศเมียนมา มีการต่อระยะเวลาออกไปอีก 6 เดือน จากที่รัฐบาลเมียนมาเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงมีความไม่ชัดเจนของกระบวนการต่อใบอนุญาต แต่ขอให้สบายใจได้สำหรับนายจ้างใครที่ลงทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้วถือว่ากระบวนการเสร็จสิ้น หากในระยะเวลา 6 เดือน ยังไม่จบก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขยายระยะเวลาต่อไป “ทั้งนี้การนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามมาตรา 64 อยู่ระหว่างรอบรรจุระเบียบวาระเข้าที่ประชุมคณธรัฐมนตรี (ครม.) และมีอีกหลายอย่างที่กำลังหารือ โดยเฉพาะเรื่องประกันสังคม ที่มีการทำประชาพิจารณ์ เรื่องข้อยกเว้นอาชีพ เราจะนำมาตรา 33 มาใช้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการบรรจุเข้าระเบียบวาระที่ประชุม ครม.เช่นกัน” นายพิพัฒน์กล่าว . นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า อาชีพต่าง ๆ ของต่างด้าว เช่น หาบเร่ แม่บ้าน เกษตรกร ที่เป็นข้อยกเว้นของประกันสังคมเราจะนำเข้าสู่ระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 เพื่อให้มีความสะดวกในสิทธิรักษาพยาบาลและการอยู่ในประเทศไทย เมื่อเกษียณอายุและต้องเดินทางกลับ ก็จะได้รับเงินบำนาญตามระเบียบหรือกฎหมายของประกันสังคม ตอนนี้กระทรวงแรงงานได้นำเรื่องเข้าสู่ ครม.แล้วเหลือเพียงรอการบรรจุเท่านั้น รมว.แรงงาน ยังกล่าวว่า แรงงานไทยเรามีไม่เพียงพอ ถือเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ อย่างผู้ที่ทำเกษตรกร หากเก็บผลผลิตไม่ทันเจ้าของสวนก็จะขาดทุน กระทรวงแรงงานเราทำทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรที่สามารถอำนวยความสะดวกและตอบสนอง ขอให้คณะ กมธ.ชุดนี้มาหารือกับกระทรวงแรงงาน อะไรที่ กมธ.ต้องการเร่งด่วน และต้องการนำเสนอเข้า ครม.เราจะต้องคุยและเดินหน้าพร้อมกัน เพื่อผลประโยชน์ประเทศของเรา ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ . “ขอเรียนตรงนี้ว่าพวกเราอยู่ในประเทศไทย ผมอาจะมาจากอีกพรรคหนึ่ง คุณรังสิมันต์ อยู่อีกพรรคหนึ่ง แต่สุดท้ายพวกเรามาทำงานให้คนทั้งประเทศ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเร็วขึ้น มีความโปร่งใสมากขึ้น วันนี้และในอนาคตผมมั่นใจ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาสู่สภา เราคงจะได้มีการปรับเปลี่ยนที่สำคัญจิตสำนึกเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เพราะฉะนั้น กระทรวงแรงงานในยุคที่ผมกำกับดูแล ขอแสดงเจตจำนงว่าอะไรที่เราสามารถทำได้เราพร้อมสนับสนุน . อย่างไรก็ตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นหัวขบวน จัดประชุมในวันที่ 12 มี.ค. 68 เพื่อเร่งรัดหลายเรื่องให้เข้าสู่ที่ประชุม ครม.โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ประกันสังคม” นายพิพัฒน์กล่าว . นายพิพัฒน์ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ว่า ตนเคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อไปหลายครั้ง ว่าทำไมถึงให้อำนาจรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการประกันสังคม ต้องเรียนให้ทราบว่าการทำประชาพิจารณ์ในยุคโควิด-19 มีการเขียนติ่งท้ายว่าถ้าเกิดเหตุสุดวิสัย ทั้งฝั่งนายจ้างและลูกจ้าง ไม่สามารถมาเลือกตั้งได้ ก็ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา แต่ก่อนที่รัฐมนตรีจะแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาต้องผ่านบอร์ดตามมาตรา 8 และบอร์ดต้องอนุมัติมาตรา 9 . ดังนั้น ตามหลัก ต้องเรียนว่ารัฐมนตรีไม่มีอำนาจที่จะตั้งหรือเลือกใครเข้ามา ซึ่งเรื่องนี้ตนพยายามเร่งนำเข้า ครม. เพื่อปรับส่วนที่ติ่งท้าย หากเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. ขั้นต่อไปก็สามารถแก้ไขในชั้น กมธ.ได้ เช่น กรณีที่รัฐมนตรีตั้งกรรมการสรรหาบอร์ดประกันสังคมให้เอาออกไป ยกเว้นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยเท่านั้น ตนมั่นใจว่าท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติแต่ละท่านก็น่าจะทราบเรื่องนี้ดี... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/politics/news-1768583

โรงพยาบาลเออีซี

เลขที่ 5/107 หมู่ 1 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ห้วยกะปิ เมือง ชลบุรี 20000

061-350-6197

           

แผนที่และการเดินทาง

โรงพยาบาลเออีซี

เลขที่ 5/107 หมู่ 1 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ห้วยกะปิ เมือง ชลบุรี 20000

   061-350-6197

              

ฝากข้อความติดต่อกลับ

กดติดตามรับข่าวสาร

Copyrights © 2025 All Rights Reserved. www.aechospital.com Version 1.0. Designed by WEB-BEE-DEV. +74,748 Times.